นางสำมนักขา, สุพรรณมัจฉา, นางเบญกาย, นางมณโฑ, สดายุ ตัวละคร รามเกียรติ์ # 5

นางสำมนักขา เป็นยักษ์ กายสีเขียว เป็นน้องร่วมมารดาคนสุดท้องของทศกัณฐ์ สามีชื่อชิวหา ต่อมาชิวหาถูกทศกัณฐ์ขว้างจักรตัดลิ้นขาดถึงแก่ความตาย นางสำมนักขาจึงเป็นม่าย มีความว้าเหว่ออกท่องเที่ยวไปจนได้พบพระราม นางเห็นพระรามรูปงามก็นึกรักอยากได้ไปเป็นคู่ครอง ถึงกับตบตีนางสีดาดวยความหึงหวงจึงถูกพระลักษมณ์ตัดหู จมูก มือและเท้าแล้วไล่ไปนางสำมนักขากลับไปฟ้องพี่ชาย คือ ทูษณ์ ขร และตรีเศียร ว่าถูกพระรามข่มเหง แต่ยักษ์ทั้ง 3 ตน ก็ถูกพระรามสังหาร นางสำมนักขาจึงไปหาทศกัณฐ์ ชมโฉมนางสีดาให้ฟัง จนทศกัณฐ์นึกอยากได้เป็นชายา จนกระทั่งไปลักพานางสีดามา

สุพรรณมัจฉา เป็นลูกของทศกัณฐ์กับนางปลา รูปร่างท่อนบนของนางจึงเป็นมนุษย์ ส่วนท่อนล่างเป็นปลา เมื่อพระรามสั่งหนุมานให้พาบริวารลิงขนหินมาถมสมุทร เพื่อทำถนนข้ามไปกรุงลงกาทศกัณฐ์ก็สั่งให้นางสุพรรณมัจฉากับพวกปลาทั้งหลาย ช่วยกันขนหินไปทิ้ง หนุมานมีความสงสัยดำน้ำลงไปดูจึงพบนางสุพรรณมัจฉา ทั้งสองมีความรักต่อกัน นางจึงยอมเป็นภรรยาของหนุมาน ต่อมา นางสุพรรมัจฉา ตั้งครรภ์และคลอดบุตรชายชื่อมัจฉานุ

นางเบญกาย เป็นธิดาของพิเภกกับนางตรีชฎา ทศกัณฐ์ ได้ใช้ให้ นางเบญกาย แปลงเป็นสีดา ลอยน้ำมาเพื่อลวงให้ พระรามเลิกทัพกลับไป พระราม ลงสรงน้ำ เห็นศพลอย มาติดท่าน้ำคิดว่า นางสีดาตายจริง ๆ ก็เสียพระทัย แต่หนุมานสงสัย ทูลขออนุญาตนำศพขึ้นมาเผาไฟ นางเบญกาย ทนความร้อนไม่ไหว จึงเหาะหนีไป หนุมานตามไปจับตัวมาถวายพระรามได้ พระราม เห็นแก่พิเภก จึงให้หนุมาน พานางไปส่งที่กรุงลงกา ระหว่างทาง หนุมานพูดจาเกี้ยวพาราสี จนได ้นางเบญกาย เป็นภรรยา เวลาต่อมาหลังจากเสร็จศึกแล้วนางมีบุตรชายกับหนุมานชื่ออสุรพัต

นางมณโฑ เป็นมเหสีของทศกัณฑ์ มีชาติกำเนิดเดิมเป็นกบ อาศัยอยู่ใกล้อาศรมของพระฤๅษี 4 ตน พระฤๅษีมักจะให้ทานน้ำนมนางกบอยู่เสมอ วันหนึ่ง นางกบ เห็นนางนาคมาคายพิษ ใส่อ่างน้ำนม เพื่อฆ่าพระฤๅษีทั้ง 4 นางจึงสละชีวิต กระโดดลงไปกินนมในอ่างจนตาย พระฤๅษีได้ชุบชีวิตนางให้ฟื้นขึ้นเพื่อถามเรื่องราว เมื่อทราบความจริงแล้ว จึงชุบนางกบ ให้เป็นมนุษย์ มีความสวยงาม ตั้งชื่อให้ว่า มณโฑ (แปลว่ากบ) แล้วนำนาง ไปถวาย พระอุมา บนสวรรค์ ต่อมา พระอิศวรประทานนางมณโฑให้แก่ ทศกัณฐ์เป็นรางวัลตอบแทน ที่ยก เขาไกรลาส ให้ตั้งตรงเหมือนเดิมได้ แต่ถูกพาลีชิงนางไประหว่างทาง นางต้องไปเป็น ภรรยาของพาลีจนตั้งครรภ์ พระฤๅษีอังคัต จึงสั่งพาลี ให้คืนนาง ให้แก่ทศกัณฑ์โดยผ่าท้องนำทารก ไปฝากไว้ในท้องแพะ ต่อมาจึงเกิดเป็นองคต

สดายุ เป็นพญานก กายสีเขียว เป็นเพื่อนกับท้าวทศรถ วันหนึ่งสดายุ พบทศกัณฐ์อุ้มนางสีดาเหาะมา นางสีดาเรียกให้ช่วย สดายุ จึงเข้าต่อสู้กับทศกัณฐ์ เพื่อแย่งนางสีดา ทศกัณฐ์สู้ไม่ได้ สดายุมีความฮึกเหิมพูดอวดตนว่า ตนไม่เคย เกรงกลัวใครเลย นอกจากพระอิศวร พระนารายณ์และ พระธำมรงค์ของพระอิศวร ที่นางสีดาสวมอยู่เท่านั้น ทศกัณฐ์ จึงถอด พระธำมรงค์วงนั้น ขว้างไปถูก ปีกของสดายุหัก ได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วทศกัณฐ์ก็พานางสีดาไป สดายุทนความเจ็บปวด คาบพระธำมรงค์ รอจนพระรามตามมาถึง เมื่อทูลเรื่องราวทั้งหมดและถวายพระธำมรงค์แล้วสดายุก็สิ้นใจ

ทศกัณฐ์, กุมภกรรณ, อินทรชิต, ไมยราพ, มารีศ, วิรุณจำบัง ตัวละคร รามเกียรติ์ # 4

ทศกัณฐ์ ก็คือยักษ์นนทุกกลับชาติมาเกิดเพื่อรบกับพระนารายณ์ ซึ่งอวตารมาเกิดเป็นมนุษย์ธรรมดา ทศกัณฐ์ เป็นกษัตริย์แห่งกรุงลงกา ร่างกายเป็นยักษ์ มี 10 หน้า 20 มือ มีสีกายเป็นสีเขียว ไม่มีใครฆ่าให้ตายได้ เพราะถอดดวงใจใส่กล่องฝากไว้กับพระฤๅษีโคบุตรผู้เป็นอาจารย์ ทศกัณฐ์มีนิสัยเจ้าชู้ มีชายาและนางสนมมากมาย แต่ถึงกระนั้น เมื่อรู้ว่านางสีดาเป็นหญิงที่มีความงดงามมาก แม้นางจะมีพระสวามีอยู่แล้ว ก็ยังลักพาตัวไป จึงเป็นสาเหตุให้ต้องทำศึกกับพระราม จนญาติมิตรล้มตายไปเป็นจำนวนมาก และในที่สุดตนเองก็ถูกพระรามฆ่าตาย

กุมภกรรณ เป็นยักษ์กายสีเขียว มีหอกโมกขศักดิ์เป็นอาวุธ ได้ชื่อว่ากุมภกรรณ (หูหม้อ) เพราะมีร่างกายใหญ่โตจนเอาหม้อใส่ไว้ในหูได้ กุมภกรรณเป็นน้องร่วมมารดาของทศกัณฐ์ โดยเป็นพี่ของพิเภก ครั้งหนึ่ง กุมภกรรณออกรบกับพระลักษมณ์ ได้พุ่งหอกโมกขศักดิ์ไปถูกพระลักษมณ์จนสลบ แต่พิเภกและหนุมานช่วยแก้ไขให้ฟื้นได้ ต่อมา กุมภกรรณได้ทำพิธีทดน้ำ โดยเนรมิตรกายให้ใหญ่โตขวางทางน้ำไว้ เพื่อให้กองทัพของพระรามอดน้ำตาย แต่ถูกหนุมานทำลายพิธี ครั้งสุดท้าย กุมภกรรณออกรบกับพระราม ถูกศรของพระรามจนเสียชีวิต

อินทรชิต เป็นยักษ์มีกายสีเขียว เป็นโอรสของทศกัณฐ์กับนางมณโฑเดิมชื่อรณพักตร์ เมื่อสามารถรบชนะพระอินทร์ได้ ทศกัณฐ์พอใจมากจึงเปลี่ยนชื่อให้ว่า “อินทรชิต อินทรชิตมีชายาชื่อสุวรรณกันยุมา มีโอรส 2 องค์ คือ ยามลิวัน และกันยุเวก มีศรนาคบาศ ศรพรหมาสตร์ และศรวิษณุปาณัมเป็นอาวุธ ทั้งยังสามารถแปลงกายเป็นพระอินทร์ได้อีกด้วย พระพรหมเคยประทานพรว่า เวลาจะตายต้องตายบนอากาศ และอย่าให้ศีรษะขาดตกถึงพื้น มิฉะนั้นจะกลายเป็นไฟบรรลัยกัลป์ล้างโลก ต้องใช้พานแว่นฟ้าของพระพรหมมารองรับ โลกจึงจะปลอดภัย ดังนั้นเมื่อพระลักษมณ์จะแผลงศรไปตัดคออินทรชิต จึงตรัสสั่งให้องคตเอาพานแว่นฟ้ามาคอยรับ

ไมยราพ เป็นยักษ์ มีกายสีม่วงอ่อน เป็นญาติของทศกัณฐ์ ปกครองเมืองบาดาลอยู่ มีอาวุธ คือ กล้องยาสะกด ใช้สำหรับเป่าเพื่อสะกดให้กองทัพของข้าศึกหลับใหล ไมยราพ ถอดดวงใจ ใส่ตัวแมลงภู่ ซ่อนไว้บนยอดเขาตรีกูฏ จึงไม่มีใครฆ่าให้ตายได้ วันหนึ่งไมยราพไปพบมัจฉานุ ซึ่งนางสุพรรณมัจฉามาคลอดทิ้งไว้ที่หาดทราย จึงเก็บไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม ต่อมา ไมยราพ ช่วยทศกัณฐ์ทำสงคราม โดยเป่ากล้องยา สะกดกองทัพ ของพระรามแล้ว จับพระรามไปขัง ไว้ที่เมืองบาดาล หนุมานตามลงไปช่วยพระรามและฆ่าไมยราพตายโดยจับตัวแมลงภู่มาขยี้

มารีศ เป็นยักษ์กายสีขาว เป็นบุตรของนางกากนาสูร มีศักดิ์เป็นน้าของทศกัณฐ์ เมื่อ ทศกัณฐ์ ได้ฟัง คำยอโฉมนางสีดาจากนางสำมนักขา ก็ให้หลงใหลอยากได้นางเป็นชายา จึงบังคับ มารีศ ให้แปลง เป็นกวางทองเดิน ไปให้นางสีดาเห็น นางสีดา อยากได้กวางทอง จึงอ้อนวอน ให้ พระราม ออกไปจับมาให้ พระรามใช้ศรยิงมารีศล้มลง มารีศแกล้งตัดเสียงเป็นพระรามร้องขึ้นดัง ๆ เหมือน ได้รับบาดเจ็บ นางสีดาได้ยินคิดว่าพระรามมีอันตรายขอให้พระลักษมณ์ตามไปช่วย แล้ว มารีศ ก็ขาดใจตาย

วิรุณจำบัง เป็นยักษ์ กายสีมอหมึก (สีขาวเจือดำ) เป็นบุตรของพญาทูษณ์แห่งกรุงจารึก จึงเป็นหลานของ ทศกัณฐ์ มีม้าคู่ใจชื่อนิลพาหุ ม้าตัวนี้มีอิทธิฤทธิ์ สามารถหายตัวได้ วิรุณจำบังยกทัพไปช่วยทศกัณฐ์ทำศึ่กกับพระราม โดยขี่ม้านิลพาหุ หายตัวเข้าไป ใน กองทัพของพระราม ลอบฆ่าพวกไพร่พลลิงตายไปเป็นจำนวนมาก พิเภก ถวาย คำแนะนำ ให้พระรามแผลงศรไปฆ่าม้านิลพาหุเสีย วิรุณจำบังหนีไปซ่อนตัวในฟองน้ำ แต่ก็ถูก หนุมานตามไปฆ่าตาย

องคต, มัจฉานุ, ชมพูพาน, อสุรพัต, พิเภก, นนทุก ตัวละคร รามเกียรติ์ # 3

องคต เป็นลิง มีกายสีเขียว เป็นบุตรของพาลีกับนางมณโฑ กล่าวคือ เมื่อพาลี แย่งนางมณโฑ มาจากทศกัณฐ์แล้ว นางต้องเป็นภรรยาของพาลีจนกระทั่งตั้งครรภ์ ทศกัณฐ์ ไปฟ้องฤๅษีอังคัตผู้เป็นอาจารย์ ของพาลีให้มาว่ากล่าวพาลี จนพาลียอมคืน นางมณโฑให้ แต่ขอลูกเอาไว้ ฤๅษีอังคัต จึงทำพิธีเอาลูกออกจากท้องนางมณโฑไปใส่ในท้องแพะ เมื่อครบ กำหนดคลอดพระฤๅษีก็ทำพิธีให้ออกจากท้องแพะให้ชื่อว่า องคต ทศกัณฐ์ยังผูกใจเจ็บ จึงแปลงกายเป็นปูยักษ์ คอยอยู่ก้นแม่น้ำเพื่อจะฆ่าองคตขณะทำพิธีลงสรง แต่ถูกพาลีจับได้ แล้วเอามาผูกไว้ให้ลูกลากเล่นอยู่เจ็ดวันจึงปล่อยไป เมื่อสุครีพขอให้พระรามมาช่วยปราบพาลี ก่อนที่พาลีจะสิ้นใจตาย ได้สำนึกตนว่าทำผิดต่อสุครีพ ทั้งไม่รักษาคำสัตย์ สาบาน จึงได้ทูล ฝากฝังสุครีพและองคต ไว้กับพระราม องคต ได้ช่วยทำศึก กับกองทัพของทศกัณฐ์ อย่างเต็มความสามารถ พระรามเคยส่งองคต เป็นทูตไปเจรจากับทศกัณฐ์ เพื่อทวง นางสีดาคื นแม้จะไม่สำเร็จ แต่ก็ได้แสดงความเฉลียวฉลาดและความกล้าหาญ ให้ประจักษ์แก่ตาของทศกัณฐ์

มัจฉานุ เป็นบุตรของหนุมานกับนางสุพรรณมัจฉา จึงมีร่างกาย เป็นลิงเผือก เช่นเดียวกับหนุมาน แต่มีหางเป็นปลา เมื่อ นาง สุพรรณมัจฉา คลอดมัจฉานุออกมาแล้ว ก็กลัวทศกัณฐ์จะรู้ จึงนำมัจฉานุไปทิ้งที่ชายหาด มัยราพณ์ ซึ่งเป็นญาติกับ ทศกัณฐ์ มาพบเข้ามีความสงสาร ได้นำไปเลี้ยงไว้เป็นบุตรบุญธรรม ต่อมา มัยราพณ์ลักพาตัว พระรามมาไว้ที่เมืองบาดาล หนุมานติดตามมาช่วย ได้พบกับมัจฉานุจึงต่อสู้กัน แต่ ไม่สามารถเอาชนะกันได้ จนกระทั่งได้รู้ว่าเป็นพ่อลูกกัน

ชมพูพาน เป็นลิง กายสีหงส์ชาด เกิดจาก พระอิศวร นำเหงื่อไคล ของพระองค์ มาทำการชุบขึ้น มีความรู้เรื่องยาต่าง ๆ สำหรับเป็นแพทย์ประจำกองทัพของพระราม ชมพูพานเคยรับพระบัญชาของพระราม ออกช่วยงานสงครามหลายครั้ง

อสุรพัต เป็นบุตรของหนุมานกับนางเบญกาย มีหน้าเป็นลิง แต่ศีรษะและตัวเป็นยักษ์ กาย สีเหลืองเลื่อม ๆ เมื่อพิเภกซึ่งเป็นตา ถูกท้าวจักรวรรดิกับไพนาสุริยวงศ ์จับไปขังไว้ อสุรพัต จึงหนีมาหาหนุมาน เล่าเรื่องราวให้ฟัง พระรามจึงโปรดให้ พระพรต กับ พระสัตรุด ยก กองทัพ ไปปราบ ซึ่งเป็นการทำศึกกับกรุงลงกาครั้งที่สอง เมื่อเสร็จศึกแล้ว พระราม ได้แต่งคั้งให้อสุรพัต มีตำแหน่งเป็น พระยามารนุราชมหาอุปราช แห่งกรุงลงกา

พิเภก คือ เทพบุตรเวสสุญาณ จุติลงมาเกิดเพื่อช่วยพระรามปราบทศกัณฐ์ พิเภกเป็นยักษ์มีกายสีเขียว เป็นน้องของทศกัณฐ์ มีความรู้ทางโหราศาสตร์อย่างยอดเยี่ยม สามารถทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ เมื่อทศกัณฐ์ลักพานางสีดามา พิเภกได้ทูลตักเตือนและแนะนำให้ส่งนางสีดาคืนไป ทำให้ทศกัณฐ์โกรธมาก จนขับไล่พิเภกออกไปจากเมืองพิเภกจึงไปสวามืภักดิ์กับพระราม ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์จนกระทั่งพระรามชนะสงคราม หลังจากเสร็จศึกแล้ว พระรามได้สถาปนาให้พิเภกเป็นกษัตริย์ครองกรุงลงกา มีพระนามว่า ท้าวทศคีรีวงศ์

นนทุก เป็นยักษ์ที่ทำหน้าที่ล้างเท้าเทวดาอยู่ที่เชิงเขาไกรลาส ถูกพวกเทวดาแกล้งตบหัวบ้าง ถอนผมบ้าง จนหัวโล้น นนทกมีความแค้นมาก จึงเข้าเฝ้าพระอิศวรทูลขอพรให้มีนิ้วเป็นเพชร สามารถชี้ให้ผู้ใดตายก็ได้ จากนั้นนนทุกก็ใช้นิ้วเพชรชี้ให้เทวดา พญาครุฑ คนธรรพ์ ตายเกลื่อนกลาด พระนารายณ์จึงต้องไปปราบ ก่อนตายนนทุกต่อว่าพระนารายณ์ว่า ตนเอง มีเพียงสองมือเท่านั้น จะชนะ พระนารายณ์ที่มีถึงสี่กรได้อย่างไร พระนารายณ์ จึงประทานพร ให้แก่นนทุกไปเกิดเป็นยักษ์มีสิบหน้า ยี่สิบมือ แล้วพระองค์จะไปเกิดเป็นมนุษย์มีเพียงสองมือ เพื่อปราบนนทกในชาติใหม่ ให้หมดสิ้นทั้งวงศ์ยักษ์ นนทกจึงกลับชาติมาเกิดเป็นทศกัณฐ์

พระลักษมณ์, นางสีดา, พาลี, หนุมาน, สุครีพ, นิลพัท ตัวละคร รามเกียรติ์ # 2

พระลักษมณ์ คือ พญาอนันตนาคราช ที่ประทับของพระนารายณ์มาเกิด มีกายสีทอง พระลักษมณ์ เป็นพระโอรสของท้าวทศรถ และ นางสมุทรเทวี มีพระอนุชาร่วมพระมารดา คือ พระสัตรุตพระลักษมณ์มีความจงรักภักดีต่อพระรามมาก เมื่อพระรามต้องออกเดินป่าถึง 14 ปีพระลักษมณ์ก็ได้ติดตามไปด้วย และยังช่วยออกรบ กับกองทัพ ของกรุงลงกา อย่างกล้าหาญ หลายครั้งหลายหน

นางสีดา คือ พระลักษมี มเหสีของพระนารายณ์ อวตารลงมาเกิดเพื่อเป็นคู่ครองของพระราม ตามบัญชาของพระอิศวร นางสีดาเป็นพระธิดาของทศกัณฐ์กับนางมณโฑ แต่เมื่อประสูติแล้ว พิเภกได้ทำนายว่า นางเป็นกาลกิณีแก่พระบิดาและบ้านเมือง ทศกัณฐ์จึงสั่งให้นำนางใส่ผอบลอยน้ำไป พระฤาษีชนกพบเข้า จึงเก็บไปเลี้ยงเป็นลูก โดยฝังดินฝากพระแม่ธรณ๊ไว้ เวลาผ่านไปถึง 16 ปี พระฤาษีชนกเบื่อหน่ายการบำเพ็ญพรตคิดกลับไปครองกรุงมิถิลาเช่นเดิม จึงลาเพศพรหมจรรย์ไปขุดนางขึ้นมาและตั้งชื่อให้ว่า สีดา(แปลว่ารอยไถ) จากนั้นพานามเข้าเมืองมิถิลา จัดพิธียกศรคู่บ้านคู่เมืองเพื่อเสี่ยงทายหาคู่ครองให้นางสีดา พระรามยกศรได้จึงได้อภิเษกสมรสกับนางสีดา

พาลี เป็นลิงมีกายสีเขียว เป็นโอรสของพระอินทร์กับนางกาลอัจนา ถูกฤๅษีโคดม สาปให้กาย เป็นลิงพร้อม ๆ กับสุครีพผู้เป็นน้อง หลังจากที่ ฤๅษีรู้ความจริง ว่าทั้งสองเป็นลูกชู้ พระอินทร์ สงสารโอรส ที่ต้องซัดเซพเนจรอยู่ในป่า จึงสร้างเมืองขีดขินให้ปกครอง และตั้งนาม ให้โอรสว่าพระยากากาศ (ซึ่งภายหลังได้นามใหม่ว่าพาลี) แล้วให้สุครีพเป็นมหาอุปราช ครั้งหนึ่ง พระอิศวรฝากนางดารามากับพาล ีเพื่อเป็นรางวัลให้สุครีพ แต่พาลี กลับยึดนาง ไว้เป็นภรรยาของตนเสียเอง และต่อมาพาลี ก็ยังแย่ง นางมณโฑมาจาก ทศกัณฐ์ขณะทศกัณฐ์ พานางเหาะผ่านเมืองขีดขิน ภายหลังพาลี ถูกพระรามสังหาร ด้วยศรจนสิ้นชีวิต

หนุมาน เป็นลิงเผือก (กายสีขาว) มีลักษณะพิเศษ คือ มีเขี้ยวแก้วอยู่กลางเพดานปาก มีกุณฑลขนเพชร สามารถแผลงฤทธิ์ให้มีสี่หน้าแปดมือ และหาวเป็นดาวเป็นเดือนได้ ใช้ตรีเพชร(สามง่าม) เป็นอาวุธประจำตัว(จะใช้เมื่อรบกับยักษ์ตัวสำคัญ ๆ) มีความเก่งกล้ามาก สามารถแปลงกายหายตัวได้ ทั้งยังอยู่ยงคงกระพัน แม้ถูกอาวุธของศัตรูจนตาย เมื่อมีลมพัดมา ก็จะฟื้นคืนได้อีก เมื่อนางสวาหะ ถูกมารดาสาปให้ไปยืนตีนเดียวเหนี่ยวกินลม พระอิศวร จึงบัญชาให้พระพาย นำเทพอาวุธของพระองค ์ไปซัดเข้าปากของนาง นาง จึงตั้งครรภ์และ คลอดบุตร เป็นลิงเผือกเหาะออกมาจากปาก ได้ชื่อว่า หนุมาน หนุมานจึงถือว่า พระพาย เป็นพ่อของตน หนุมาน ได้ถวายตัว เป็นทหารเอกของ พระราม ช่วยทำการรบ จนสิ้นสงคราม

สุครีพ เป็นลิงมีกายสีแดง มีศักดิ์เป็นน้าของหนุมาน สุครีพ เป็นลูก ของพระอาทิตย์ กับนางกาลอัจนา เมื่อพระฤๅษีโคดมรู้ความจริงจากนางสวาหะว่าสุครีพไม่ใช่ลูกของตน แต่เป็นลูกชู้ จึงสาปให้กลายเป็นลิงพร้อมกับพาลีผู้เป็นพี่ชาย ซึ่งเป็นลูกของพระอินทร์ แล้วไล่ให้เข้าป่าไป ต่อมาสุครีพได้เป็นทหารของพระราม ได้รับ ความไว้วางพระทัย จากพระราม ให้เป็นผู้จัดกองทัพออกสู้รบกับกองทัพของกรุงลงกาอยู่เสมอ

นิลพัท เป็นลิง กายสีน้ำรัก (สีดำสนิท) มีเขี้ยวแก้วเช่นเดียวกับหนุมานมีฤทธิ์เดชเก่งกล้ามาก เมื่อพระรามให้พวกวานรทำถนนข้ามไปกรุงลงกา นิลพัท กับ หนุมาน เกิดทะเลาะ วิวาท และต่อสู้กัน แต่ไม่มีใครเอาชนะได้ เพราะต่างก็มีฤทธิ์เดชเท่าเทียมกัน พระราม กริ้วมาก สั่งให้นิลพัทไปรักษาเมืองขีดขินคอยส่งเสบียงอาหารให้กองทัพของพระราม ส่วนหนุมาน ก็ให้ทำถนนให้เสร็จภายใน 7 วัน

พระอิศวร , พระอุมา, ท้าวมาลีวราช, พระอินทร์, พระนารายณ์, พระราม ตัวละคร รามเกียรติ์ # 1

พระอิศวร คือเทวดาผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์ มีกายสีเขียว แต่พระศอเป็นสีดำเพราะเคยดื่มยาพิษ มีพระเนตรถึง 3 ดวง ดวงที่ 3 อยู่กลางพระนลาฏ ซึ่งตามปกติจะหลับอยู่เนื่องจากพระเนตรดวงที่ 3 นี้มีอานุภาพร้ายแรงมาก หากลืมขึ้นเมื่อใด จะเผาผลาญทุกอย่างให้มอดไหม้ได้
พระมเหสีของพระองค์ คือ พระอุมา มีพระราชโอรสด้วยกัน 2 พระองค์ คือ พระขันทกุมารและพระพิฆเณศ พระอิศวร มีนาคเป็นสังวาล มีพระจันทร์เป็นปิ่น อาวุธประจำพระองค์คือตรีศูล (หลาวสามง่าม) พาหนะของพระองค์ คือ โคอุศุภราช พระองค์ยังมีชื่อเรียกอีกหลายชื่อ เช่น พระศุลี พระศิวะ พระภูเตศวร พระตรีเนตร พระสยมภู พระมหาเทพ พระวิศานาถ พระมเหศวร เป็นต้น

พระอุมา เป็นมเหสีของพระอิศวร มีสองภาคคือ ภาคใจดี กับ ภาคดุร้าย พระอุมาในภาค ใจดี เป็นหญิงสาว ที่มีรูปโฉมงดงามมาก ส่วนในภาคดุร้าย จะมีรูปร่างน่าเกลียดน่ากลัว มีหัวกะโหลก มนุษย์ห้อยที่พระศอ มี 10 กร แต่ละกรถืออาวุธต่าง ๆ กัน ทั้งยังมีจิตใจโหดเหี้ยมมาก แม้แต่ พระอิศวรเองก็ยังเกรงพระอุมาในภาคดุร้ายนี้ พระนามของ พระอุมา ในภาคดุร้าย มีชื่อเรียกอย่างอื่นเช่น ทุรคา กาลี จัณฑี เป็นต้น

ท้าวมาลีวราช หรือมาลีวัคคพรหม เป็นพรหมมี 4 พักตร์ 8 กร มีความยุติธรรมมาก จึงได้รับพร จาก พระอิศวรให้มี วาจาสิทธิ์ ท้าวมาลีวราช มีศักดิ์เป็นปู่ของ ทศกัณฐ์ เมื่อทศกัณฐ์ ทำสงคราม กับพระราม ต้องสูญเสีย ญาติมิตร และ บริวาร เป็นจำนวนมาก ทศกัณฐ์หวังจะให้ ท้าวมาลีวราช สาปแช่งพระราม จึงฟ้องร้องต่อท้าวมาลีวราช ใส่ร้ายพระราม มากมาย ท้าวมาลีวราช ไม่ต้องการ ฟังความข้างเดียว จึงให้เชิญพระราม และนางสีดา ไปสอบสวน จนได้ความจริง ท้าวมาลีวราช สั่งให้ทศกัณฐ์คืน นางสีดาไป แต่ทศกัณฐ์ไม่ยินยอม ท้าวมาลีวราช โกรธมาก กล่าวคำสาปแช่งให้ทศกัณฐ์ต้องตาย ด้วยศรของพระราม

พระอินทร์ คือ เทวดาผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ กายสีเขียว มีพระเนตรถึงพันดวง ใช้วัชระ(สายฟ้า) เป็นอาวุธ มีช้างเอราวัณเป็นพาหนะ พระองค์มีมเหสี 4 องค์ คือ สุจิตรา สุธรรมา สุนันทา และสุชาดา พระอินทร์เป็นผู้ดูแลทุกข์สุขของมนุษยโลก ยามใดที่มีเรื่องเดือดร้อนขึ้นบนโลกมนุษย์ อาสนะของพระองค์ที่เคยอ่อนนุ่มก็จะแข็งกระด้าง หรือบางครั้งก็ร้อนจนไม่สามารถประทับอยู่ได้ พระอินทร์มีชื่อเรียกอย่างอื่น เช่น ท้าวสหัสนัยน์ ท้าวโกสีย์ ท้าวสักกะ เทวราช อมรินทร์ ศักรินทร์ มัฆวาน เพชรปาณี เป็นต้น

พระนารายณ์ เป็นเทวดาผู้เป็นใหญ่ฝ่ายปราบปราม มีกายสีดอกตะแบก มี 4 กรซึ่งกรทั้ง 4 นั้นถิออาวุธต่าง ๆ กัน คือ คฑา ตรี จักร สังข์ ประทับอยู่กลางเกษียรสมุทรบนหลังพญานาค ชื่อ อนันตนาคราช พระมเหสีของพระองค์คือพระลักษมี ทรงใช้ครุฑ เป็นพาหนะ พระนารายณ์ มี ชื่อเรียกอย่างอื่นอีก เช่น พระทรงครุฑ พระสี่กร พระทรงสังข์ พระวิษณุ พระธราธร พระสังขกร เป็นต้น

พระราม คือ พระนารายณ์อวตาร (แบ่งภาค) ลงมา ถือกำเนิด เป็น พระราชโอรส ของ ท้าวทศรถ กับนางเกาสุริยา แห่งกรุงอยุธยา เพื่อจะปราบปรามทศกัณฐ์ พระราม มีพระอนุชา ต่างพระมารดา 3 พระองค์ คือ พระพรต พระลักษมณ์ และพระสัตรุต พระมเหส ีของ พระราม คือ นางสีดา พระรามมีกายสีเขียว สามารถปรากฎร่างเป็นพระนารายณ์มีสี่กรได้ อาวุธประจำพระองค์ คือ ศร ซึ่งเป็นอาวุธวิเศษที่ได้ประทานมาจากพระอิศวร